Position:home  

เค้กโยเกิร์ต: ขนมหวานแสนอร่อยและดีต่อสุขภาพ

เค้กโยเกิร์ตเป็นขนมหวานที่ทำจากโยเกิร์ต ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากนมที่ได้จากการหมักนมด้วยแบคทีเรียที่มีประโยชน์ โยเกิร์ตมีโปรตีนสูง แคลเซียม และโปรไบโอติกส์ ซึ่งให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย

เค้กโยเกิร์ตเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มและพึงพอใจได้นานขึ้น โปรตีนยังจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและซ่อมแซมกล้ามเนื้ออีกด้วย

นอกจากนี้ เค้กโยเกิร์ตยังอุดมไปด้วยแคลเซียม แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อสุขภาพของกระดูกและฟัน นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน

โยเกิร์ตมีโปรไบโอติกส์ด้วย โปรไบโอติกส์เป็นแบคทีเรียที่มีชีวิตซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้และระบบภูมิคุ้มกัน

เค้กโยเกิร์ต

เค้กโยเกิร์ตเป็นขนมหวานที่อร่อยและดีต่อสุขภาพ เป็นวิธีที่ดีในการเพิ่มโปรตีน แคลเซียม และโปรไบโอติกส์ในอาหารของคุณ

เค้กโยเกิร์ต: ขนมหวานแสนอร่อยและดีต่อสุขภาพ

ประโยชน์ของเค้กโยเกิร์ต

เค้กโยเกิร์ตมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย รวมถึง:

  • ช่วยลดน้ำหนัก: เค้กโยเกิร์ตมีโปรตีนสูง ซึ่งช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มและพึงพอใจได้นานขึ้น ช่วยลดการกินมากเกินไปและส่งเสริมการลดน้ำหนัก
  • ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ: เค้กโยเกิร์ตเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ
  • ช่วยให้กระดูกแข็งแรง: เค้กโยเกิร์ตอุดมไปด้วยแคลเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อสุขภาพของกระดูกและฟัน แคลเซียมช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน
  • ช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้: เค้กโยเกิร์ตมีโปรไบโอติกส์ ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีชีวิตซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ โปรไบโอติกส์ช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้และระบบภูมิคุ้มกัน

สูตรเค้กโยเกิร์ต

ต่อไปนี้คือสูตรง่ายๆ สำหรับเค้กโยเกิร์ต:

ประโยชน์ของเค้กโยเกิร์ต

ส่วนผสม:

  • โยเกิร์ต 1 ถ้วย
  • น้ำตาล 1/2 ถ้วย
  • ไข่ 2 ฟอง
  • แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 1/2 ถ้วย
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • โซดา 1/2 ช้อนชา
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ:

  1. อุ่นเตาอบที่ 350 องศาฟาเรนไฮต์ (175 องศาเซลเซียส)
  2. ทาเนยและแป้งในถาดเค้กขนาด 9x13 นิ้ว
  3. ในชามขนาดใหญ่ ตีโยเกิร์ต น้ำตาล และไข่เข้าด้วยกัน
  4. ในชามแยกต่างหาก ร่อนแป้งสาลีอเนกประสงค์ ผงฟู โซดา และเกลือเข้าด้วยกัน
  5. ค่อยๆ เติมส่วนผสมแห้งลงในส่วนผสมที่เปียก และคนจนเข้ากัน
  6. เทแป้งลงในถาดเค้กที่เตรียมไว้
  7. อบเป็นเวลา 25-30 นาที หรือจนสุก

เคล็ดลับและคำแนะนำ

  • คุณสามารถเพิ่มผลไม้ เช่น บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ หรือกล้วย ลงในเค้กโยเกิร์ตได้
  • คุณยังสามารถเพิ่มชิปช็อกโกแลตหรือถั่วสับลงไปได้
  • หากคุณต้องการเค้กที่หวานน้อยลง ให้ลดปริมาณน้ำตาลลง
  • หากคุณต้องการเค้กที่แน่นขึ้น ให้เพิ่มปริมาณแป้งสาลีอเนกประสงค์ลง
  • คุณสามารถรับประทานเค้กโยเกิร์ตเป็นอาหารเช้า อาหารว่าง หรือขนมหวานได้

คำถามที่พบบ่อย

1. ผู้ที่มีอาการแพ้แลคโตสสามารถรับประทานเค้กโยเกิร์ตได้หรือไม่?

ได้ ผู้ที่มีอาการแพ้แลคโตสสามารถรับประทานโยเกิร์ตที่ปราศจากแลคโตสได้ โยเกิร์ตที่ปราศจากแลคโตสมีแลคเตสซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ย่อยแลคโตส

เค้กโยเกิร์ต: ขนมหวานแสนอร่อยและดีต่อสุขภาพ

2. เค้กโยเกิร์ตมีอายุการเก็บรักษาได้นานแค่ไหน?

เค้กโยเกิร์ตสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 3 วัน

3. ฉันสามารถแช่แข็งเค้กโยเกิร์ตได้หรือไม่?

ได้ คุณสามารถแช่แข็งเค้กโยเกิร์ตได้นานถึง 2 เดือน

4. ฉันสามารถทำเค้กโยเกิร์ตด้วยเครื่องทำขนมปังได้หรือไม่?

ได้ คุณสามารถใช้เครื่องทำขนมปังเพื่อทำเค้กโยเกิร์ตได้ แต่คุณอาจต้องปรับสูตรเล็กน้อย

5. ฉันสามารถใช้ครีมเปรี้ยวแทนโยเกิร์ตได้หรือไม่?

ได้ คุณสามารถใช้ครีมเปรี้ยวแทนโยเกิร์ตได้ แต่เค้กจะหนาแน่นกว่าเล็กน้อย

6. เค้กโยเกิร์ตมีกี่แคลอรี่?

จำนวนแคลอรี่ในเค้กโยเกิร์ตจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับส่วนผสมที่ใช้ ในสูตรข้างต้น เค้กโยเกิร์ต 1 ชิ้นมีแคลอรี่ประมาณ 200 แคลอรี่

ตาราง: ปริมาณสารอาหารในเค้กโยเกิร์ต

สารอาหาร ปริมาณต่อชิ้น (1/12 ของสูตร)
แคลอรี่ 200
โปรตีน 10 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 30 กรัม
ไขมัน 5 กรัม
แคลเซียม 150 มิลลิกรัม
โปรไบโอติกส์ 10 พันล้าน CFU

ตาราง: ประโยชน์ของเค้กโยเกิร์ต

ประโยชน์ คำอธิบาย
ช่วยลดน้ำหนัก เค้กโยเกิร์ตมีโปรตีนสูง ซึ่งช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มและพึงพอใจได้นานขึ้น
ช่วยสร้างกล้ามเนื้อ เค้กโยเกิร์ตเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ
ช่วยให้กระดูกแข็งแรง เค้กโยเกิร์ตอุดมไปด้วยแคลเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อสุขภาพของกระดูกและฟัน
ช่วยส่งเสริมสุขภาพลำไส้ เค้กโยเกิร์ตมีโปรไบโอติกส์ ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีชีวิตซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

ตาราง: เคล็ดลับและคำแนะนำ

เคล็ดลับ คำแนะนำ
เพิ่มผลไม้ เพิ่มผลไม้ เช่น บลูเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ หรือกล้วย ลงในเค้กโยเกิร์ต
เพิ่มชิปช็อกโกแลตหรือถั่ว เพิ่มชิปช็อกโกแลตหรือถั่วสับลงไป
ลดปริมาณน้ำตาล หากคุณต้องการเค้กที่หวานน้อยลง ให้ลดปริมาณน้ำตาลลง
เพิ่มปริมาณแป้ง หากคุณต้องการเค้กที่แน่นขึ้น ให้เพิ่มปริมาณแป้งสาลีอเนกประสงค์ลง
Time:2024-09-09 07:31:19 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss