อาหารต้องห้ามขณะที่มีบาดแผลเรื้อรัง

Position：home

อาหารต้องห้ามขณะที่มีบาดแผลเรื้อรัง

บาดแผลเรื้อรังเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น โรคเบาหวาน โรคหลอดเลือด และการบาดเจ็บที่รุนแรง บาดแผลเหล่านี้อาจไม่หายเป็นเวลานานกว่า 4 สัปดาห์ และอาจติดเชื้อได้ง่าย

ในขณะที่มีบาดแผลเรื้อรัง มีอาหารบางชนิดที่คุณควรหลีกเลี่ยง เนื่องจากอาจทำให้แผลหายช้าลงหรือติดเชื้อได้

อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงระหว่างที่มีบาดแผลเรื้อรัง

อาหารที่มีน้ำตาลสูง น้ำตาลสามารถลดการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน ซึ่งจำเป็นต่อการรักษาบาดแผล อาหารที่มีน้ำตาลสูง ได้แก่ น้ำอัดลม ขนมหวาน และน้ำผลไม้

เป็นแผลห้ามกินอะไร

อาหารที่อุดมด้วยไขมันอิ่มตัว ไขมันอิ่มตัวสามารถเพิ่มการอักเสบ ซึ่งอาจทำให้แผลหายช้าลง อาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง ได้แก่ เนย เนื้อแดง และอาหารทอด

อาหารที่อุดมด้วยโซเดียม โซเดียมสามารถทำให้ร่างกายเกิดการคั่งน้ำ ซึ่งอาจทำให้แผลบวมและหายช้าลง อาหารที่มีโซเดียมสูง ได้แก่ เกลือ อาหารสำเร็จรูป และอาหารแช่แข็ง

อาหารดิบหรือปรุงสุกไม่ทั่วถึง อาหารดิบหรือปรุงสุกไม่ทั่วถึงอาจมีเชื้อโรคที่ทำให้แผลติดเชื้อ อาหารเหล่านี้ ได้แก่ เนื้อสัตว์ดิบ ไข่ดิบ และหอยดิบ

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์สามารถทำให้การไหลเวียนของเลือดแย่ลง ซึ่งอาจทำให้แผลหายช้าลง เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังสามารถลดการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน

อาหารที่ควรทานขณะที่มีบาดแผลเรื้อรัง

ในขณะที่มีบาดแผลเรื้อรัง คุณควรทานอาหารที่มีสารอาหารที่จำเป็นต่อการรักษาบาดแผล อาหารเหล่านี้ ได้แก่

โปรตีน โปรตีนจำเป็นต่อการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ อาหารที่มีโปรตีนสูง ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่ และเต้าหู้

วิตามินซี วิตามินซีจำเป็นต่อการสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยซ่อมแซมบาดแผล อาหารที่มีวิตามินซีสูง ได้แก่ ผลไม้รสเปรี้ยว ผักใบเขียว และพริกหยวก

สังกะสี สังกะสีจำเป็นต่อการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน อาหารที่มีสังกะสีสูง ได้แก่ หอยนางรม เนื้อแดง และถั่ว

ตารางอาหารที่แนะนำสำหรับผู้ที่มีบาดแผลเรื้อรัง

มื้ออาหาร	อาหารที่แนะนำ
อาหารเช้า	ไข่กวนกับขนมปังปิ้งโฮลวีต, ข้าวโอ๊ตกับผลไม้และถั่ว, โยเกิร์ตกับผลเบอร์รี่
อาหารกลางวัน	แซนด์วิชกับไก่ย่างหรือปลา, สลัดกับเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน, ซุปไก่
อาหารเย็น	เนื้อไก่ย่างกับผักย่าง, ปลาอบกับข้าวกล้อง, พาสต้ากับซอสเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
ของว่าง	ผลไม้, ผัก, ถั่ว, เมล็ด

กลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพในการรักษาบาดแผลเรื้อรัง

นอกจากการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ยังมีกลยุทธ์อื่นๆ ที่สามารถช่วยในการรักษาบาดแผลเรื้อรังได้ กลยุทธ์เหล่านี้ ได้แก่

การทำความสะอาดแผลทุกวัน การทำความสะอาดแผลเป็นประจำจะช่วยป้องกันการติดเชื้อและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
การใช้ผ้าพันแผลที่เหมาะสม ผ้าพันแผลช่วยปกป้องแผลจากการติดเชื้อและความชื้น และอาจช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
การยกแขนหรือขาที่บาดเจ็บ การยกแขนหรือขาที่บาดเจ็บจะช่วยลดการบวมและช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น
การไม่สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่สามารถทำให้การไหลเวียนของเลือดแย่ลง ซึ่งอาจทำให้แผลหายช้าลง
การออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายเป็นประจำสามารถช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

เรื่องราวที่น่าสนใจและบทเรียนที่ได้

เรื่องที่ 1: ผู้ชายคนหนึ่งมีบาดแผลที่ขาเป็นเวลานานหลายเดือน เขาไปพบแพทย์หลายครั้ง แต่แผลก็ยังไม่หายสักที ในที่สุดแพทย์ก็บอกว่าแผลของเขาไม่หายเพราะเขาทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงมาก ผู้ชายคนนั้นจึงเลิกทานอาหารที่มีน้ำตาลสูง และแผลของเขาก็หายภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์

บทเรียนที่ได้: การทานอาหารที่มีน้ำตาลสูงสามารถทำให้แผลหายช้าลง

เรื่องที่ 2: ผู้หญิงคนหนึ่งมีบาดแผลที่แขนเป็นเวลานานหลายสัปดาห์ เธอไปพบแพทย์หลายครั้ง แต่แผลก็ยังไม่หายสักที ในที่สุดแพทย์ก็บอกว่าแผลของเธอไม่หายเพราะเธอสูบบุหรี่ ผู้หญิงคนนั้นจึงเลิกสูบบุหรี่ และแผลของเธอก็หายภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์

บทเรียนที่ได้: การสูบบุหรี่สามารถทำให้แผลหายช้าลง

อาหารต้องห้ามขณะที่มีบาดแผลเรื้อรัง

เรื่องที่ 3: ชายคนหนึ่งมีบาดแผลที่เท้าเป็นเวลานานหลายปี เขาไปพบแพทย์หลายครั้ง แต่แผลก็ยังไม่หายสักที ในที่สุดแพทย์ก็บอกว่าแผลของเขาไม่หายเพราะเขามีปัญหาเกี่ยวกับการไหลเวียนของเลือด ชายคนนั้นจึงเริ่มออกกำลังกายเป็นประจำ และแผลของเขาก็หายภายในเวลาไม่กี่เดือน

บทเรียนที่ได้: การออกกำลังกายเป็นประจำสามารถช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

ข้อผิดพลาดทั่วไปที่ควรหลีกเลี่ยง

มีข้อผิดพลาดหลายประการที่ผู้คนมักทำเมื่อพยายามรักษาบาดแผลเรื้อรัง ข้อผิดพลาดเหล่านี้ ได้แก่

การไม่ทำความสะอาดแผลทุกวัน การไม่ทำความสะอาดแผลเป็นประจำอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและทำให้แผลหายช้าลง
การใช้ผ้าพันแผลที่ไม่เหมาะสม ผ้าพันแผลที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและทำให้แผลหายช้าลง
การไม่ยกแขนหรือขาที่บาดเจ็บ การไม่ยกแขนหรือขาที่บาดเจ็บอาจทำให้เกิดการบวมและทำให้เลือดไหลเวียนได้แย่ลง
การสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่สามารถทำให้การไหลเวียนของเลือดแย่ลง ซึ่งอาจทำให้แผลหายช้าลง
การไม่รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การไม่รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการรักษาบาดแผล