จะรู้ได้อย่างไรว่าโดนบล็อกไลน์ 2565? ไขข้อสงสัย พร้อมวิธีรับมือหากโดนแบน

การโดนบล็อกไลน์ เป็นสิ่งที่หลายคนกังวล เพราะอาจทำให้เราพลาดการติดต่อกับเพื่อน ครอบครัว หรือแม้แต่เรื่องงานได้ หากคุณสงสัยว่าตัวเองโดนบล็อกไลน์หรือไม่ มาดูวิธีเช็กและรับมือกันเลย

วิธีเช็กว่าโดนบล็อกไลน์

สังเกตการส่งข้อความ

• ข้อความที่ส่งไปจะขึ้นสถานะ "กำลังส่ง" เป็นเวลานาน ไม่เปลี่ยนเป็น "ส่งแล้ว"
• ไม่มีการแจ้งเตือนว่าข้อความได้ถูกอ่านแล้ว (แม้ว่าผู้รับจะเปิดอ่านข้อความแล้ว)

โทรหาผู้รับ

• เมื่อโทรหาผู้รับจะได้ยินเสียงสัญญาณสายไม่ว่าง หรือสายตัดทันที
• เมื่อโทรซ้ำหลายครั้งแล้วไม่ได้รับการตอบรับ

เพิ่มเพื่อนใหม่

• หากคุณไม่สามารถเพิ่มเพื่อนคนนั้นเป็นเพื่อนใหม่ได้ แม้ว่าจะรู้จักและมีเบอร์โทรหรืออีเมลของเขา/เธอ

เช็กจากอุปกรณ์อื่น

• ลองเข้าสู่บัญชีไลน์ของคุณจากอุปกรณ์เครื่องอื่น (เช่น คอมพิวเตอร์) ถ้าคุณยังคงไม่สามารถติดต่อผู้รับได้ แสดงว่าคุณอาจโดนบล็อก

วิธีรับมือหากโดนบล็อกไลน์

หากคุณแน่ใจว่าโดนบล็อกไลน์แล้ว สิ่งที่ทำได้มีดังนี้

• ยอมรับความจริง และเคารพการตัดสินใจของผู้รับ
• อย่าพยายามติดต่อไปอีก เพราะจะยิ่งทำให้ผู้รับรำคาญมากขึ้น
• ลบผู้รับออกจากรายชื่อเพื่อน เพื่อป้องกันไม่ให้คุณเผลอส่งข้อความหรือโทรหาอีก
• รอเวลา ให้ผู้รับใจเย็นลงและอาจเปลี่ยนใจในภายหลัง

เหตุผลที่ทำให้โดนบล็อกไลน์

การโดนบล็อกไลน์มีสาเหตุได้หลายประการ ดังนี้

• ส่งข้อความหรือโทรหาบ่อยเกินไป จนทำให้ผู้รับรำคาญ
• มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น กลั่นแกล้ง ส่งข้อความข่มขู่ หรือคุกคาม
• แชร์ข้อมูลที่ไม่เหมาะสม เช่น ข่าวลือ เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม หรือสแปม
• แอดเพื่อนแบบสุ่ม หรือแอดเพื่อนที่ไม่รู้จักโดยใช้บัญชีปลอม
• ใช้ภาษาหรือภาพที่ไม่สุภาพ ในการสื่อสาร

วิธีหลีกเลี่ยงการโดนบล็อกไลน์

เพื่อป้องกันไม่ให้โดนบล็อกไลน์ คุณควร

• เคารพพื้นที่ส่วนตัวของผู้รับ อย่าส่งข้อความหรือโทรหาบ่อยเกินไป
• มีมารยาทในการสื่อสาร ใช้ภาษาที่สุภาพ ไม่ใช้คำหยาบหรือคุกคาม
• ระมัดระวังในการแชร์ข้อมูล แชร์เฉพาะข้อมูลที่เหมาะสมและเป็นประโยชน์
• เพิ่มเพื่อนอย่างระมัดระวัง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณรู้จักผู้ที่คุณจะเพิ่มเป็นเพื่อน และไม่เพิ่มเพื่อนแบบสุ่ม
• ใช้บัญชีไลน์อย่างถูกต้อง ไม่ใช้บัญชีปลอมหรือแอบอ้างเป็นผู้อื่น

ทำไมการไม่โดนบล็อกไลน์จึงสำคัญ

การไม่โดนบล็อกไลน์มีความสำคัญเพราะช่วยให้คุณสามารถ

• ติดต่อกับเพื่อน ครอบครัว และคนสำคัญ ได้อย่างต่อเนื่อง
• รับข่าวสารและการแจ้งเตือน ที่จำเป็นจากกลุ่มและบุคคลต่างๆ
• ใช้ไลน์สำหรับติดต่อธุรกิจ และการทำงานได้อย่างราบรื่น
• รักษาความสัมพันธ์และเครือข่าย บนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างสถานการณ์โดนบล็อกไลน์ที่น่าสนใจ

เรื่องที่ 1: เพื่อนที่หายไป

สมชายแปลกใจเมื่อพบว่าไม่สามารถติดต่อเพื่อนสนิทคนหนึ่งได้อีกต่อไป เมื่อโทรหาก็ไม่รับสาย เมื่อส่งข้อความไปก็ไม่มีการตอบรับ สมชายจึงลองเพิ่มเพื่อนใหม่ แต่ปรากฏว่าไม่สามารถเพิ่มได้ จนในที่สุดเขาก็ได้รู้ว่าโดนเพื่อนบล็อกไปแล้ว

ข้อคิดที่ได้: อย่าส่งข้อความหรือโทรหาเพื่อนบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้เพื่อนรู้สึกอึดอัดและรำคาญได้

เรื่องที่ 2: ผู้ติดตามที่ไม่รู้จัก

หญิงสาวคนหนึ่งชื่อหญิงมักจะได้รับคำขอเป็นเพื่อนจากคนที่ไม่รู้จัก เธอจึงปฏิเสธคำขอเหล่านั้นและลบผู้ติดตามแปลกหน้าออกไป แต่ปรากฏว่ามีผู้ติดตามคนหนึ่งที่เธอไม่รู้จักยังคงปรากฏอยู่ในรายชื่อเพื่อน และหญิงไม่สามารถลบผู้ติดตามคนนั้นออกได้ เธอจึงสงสัยว่าโดนบล็อกไลน์ไปแล้ว

ข้อคิดที่ได้: ระมัดระวังในการรับคำขอเป็นเพื่อนจากคนที่ไม่รู้จัก เพราะอาจเป็นผู้ใช้ปลอมหรือผู้ที่ต้องการแอบอ้างเป็นคนอื่น

เรื่องที่ 3: ความเข้าใจผิด

นายสินธุ์กับเพื่อนร่วมงานทะเลาะกันเล็กน้อย นายสินธุ์โมโหจึงบล็อกไลน์เพื่อนร่วมงานไป แต่ต่อมาเขาได้คิดทบทวนและอยากขอโทษเพื่อนร่วมงานอีกครั้ง แต่เมื่อเขาปลดบล็อกไลน์แล้วกลับพบว่าเพื่อนร่วมงานได้ลบเขาออกจากรายชื่อเพื่อนไปแล้ว

ข้อคิดที่ได้: เมื่อเกิดความเข้าใจผิด ให้รีบเคลียร์และขอโทษโดยเร็วที่สุด เพราะหากปล่อยให้เวลาผ่านไปนานเกินไป อาจสายเกินกว่าจะแก้ไขได้

สรุป

การโดนบล็อกไลน์เป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลย หากคุณสงสัยว่าโดนบล็อก ควรเช็กโดยวิธีต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น หากคุณโดนบล็อกจริง แนะนำให้ยอมรับความจริง เคารพการตัดสินใจของผู้รับ และระมัดระวังไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต