Position:home  

กระเพาะปัสสาวะของผู้หญิง: ดูแลให้แข็งแรง ป้องกันโรค

กระเพาะปัสสาวะเป็นอวัยวะสำคัญที่รับผิดชอบในการเก็บและขับถ่ายปัสสาวะ สำหรับผู้หญิงแล้ว กระเพาะปัสสาวะมีลักษณะพิเศษที่ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมากกว่าผู้ชาย

ลักษณะพิเศษของกระเพาะปัสสาวะผู้หญิง

  • มีขนาดเล็กกว่า: กระเพาะปัสสาวะของผู้หญิงมีขนาดเล็กกว่าของผู้ชาย โดยเฉลี่ยแล้วมีความจุเพียง 500-600 มิลลิลิตร
  • ตำแหน่งอยู่ต่ำ: กระเพาะปัสสาวะของผู้หญิงตั้งอยู่ต่ำกว่าของผู้ชาย ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงต่อการหย่อน

ปัญหาที่พบได้บ่อยในกระเพาะปัสสาวะผู้หญิง

เนื่องจากลักษณะพิเศษของกระเพาะปัสสาวะผู้หญิง จึงทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ เช่น

  • การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTIs): เป็นการติดเชื้อที่เกิดขึ้นในกระเพาะปัสสาวะ ท่อปัสสาวะ และไต สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากแบคทีเรียที่เข้าไปในร่างกายทางท่อปัสสาวะ
  • กระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง (Interstitial cystitis): เป็นภาวะที่ทำให้เกิดการอักเสบและระคายเคืองในผนังกระเพาะปัสสาวะ ผู้ป่วยจะมีอาการปัสสาวะบ่อย ปวดปัสสาวะ และปัสสาวะแสบขัด
  • ภาวะกระเพาะปัสสาวะหย่อน (Prolapse): เกิดขึ้นเมื่อกระเพาะปัสสาวะเคลื่อนตัวลงจากตำแหน่งปกติ อาจทำให้เกิดอาการปัสสาวะเล็ด ปัสสาวะบ่อย และปวดท้องน้อย
  • เนื้องอกมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ: เป็นมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับที่ 4 ในผู้หญิง มักเกิดในผู้สูงอายุ

สถิติความชุกของโรคกระเพาะปัสสาวะในผู้หญิง

  • กว่า 80% ของผู้หญิงจะมีปัญหาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต
  • ประมาณ 1 ใน 10 คนของผู้หญิงจะประสบปัญหาภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง
  • ภาวะกระเพาะปัสสาวะหย่อนพบได้ในผู้หญิงสูงอายุถึง 50%
  • มะเร็งกระเพาะปัสสาวะพบได้ในผู้หญิงประมาณ 1 ใน 50 คน

ตารางสรุปปัญหาที่พบบ่อยในกระเพาะปัสสาวะผู้หญิง

ปัญหา อาการ สาเหตุ
การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ปัสสาวะแสบขัด ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะขุ่น แบคทีเรียเข้าไปในท่อปัสสาวะ
กระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง ปัสสาวะบ่อย ปวดปัสสาวะ ปัสสาวะแสบขัด การอักเสบและระคายเคืองในผนังกระเพาะปัสสาวะ
ภาวะกระเพาะปัสสาวะหย่อน ปัสสาวะเล็ด ปัสสาวะบ่อย ปวดท้องน้อย กระเพาะปัสสาวะเคลื่อนตัวลงจากตำแหน่งปกติ
เนื้องอกมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะลำบาก ปวดท้องน้อย เซลล์ในกระเพาะปัสสาวะเจริญผิดปกติ

วิธีป้องกันโรคกระเพาะปัสสาวะในผู้หญิง

  • ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
  • ปัสสาวะเมื่อรู้สึกปวด
  • ทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศหลังการเข้าห้องน้ำ
  • หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด
  • ลดการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่กระตุ้นกระเพาะปัสสาวะ เช่น คาเฟอีน แอลกอฮอล์ และอาหารรสจัด

สิ่งที่ผู้หญิงต้องระวัง

  • การตั้งครรภ์และการคลอดบุตร: การตั้งครรภ์และการคลอดบุตรสามารถทำให้เกิดการหย่อนของกล้ามเนื้อบริเวณอุ้งเชิงกราน ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดภาวะกระเพาะปัสสาวะหย่อน
  • วัยหมดประจำเดือน: การสูญเสียฮอร์โมนเอสโตรเจนหลังวัยหมดประจำเดือนอาจทำให้เนื้อเยื่อในกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะบางลง จึงมีความเสี่ยงต่อการเกิดการติดเชื้อและภาวะกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรังมากขึ้น
  • การสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

เรื่องราวที่น่าสนใจ

เรื่องที่ 1

หญิงสาวคนหนึ่งชื่อ คุณสมใจ มีอาการปัสสาวะบ่อยและปัสสาวะแสบขัดมาหลายสัปดาห์ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่าเป็นอาการปกติของผู้หญิง

กระเพาะ ปัสสาวะ ผู้หญิง

ต่อมา อาการของ คุณสมใจ แย่ลงเรื่อยๆ จนต้องเข้าห้องน้ำทุกๆ 30 นาที เธอไปพบแพทย์และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ คุณสมใจ จึงได้รับยาปฏิชีวนะและอาการก็ดีขึ้นในเวลาไม่นาน

กระเพาะปัสสาวะของผู้หญิง: ดูแลให้แข็งแรง ป้องกันโรค

ข้อคิด: อย่าละเลยอาการผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคที่ร้ายแรงได้

เรื่องที่ 2

คุณยายแก้ว อายุ 65 ปี มีอาการปัสสาวะเล็ดทุกครั้งที่หัวเราะ ไอ หรือจาม เธออายที่จะบอกใครและพยายามซ่อนความลับนี้ไว้

ต่อมา คุณยายแก้ว ตัดสินใจไปพบแพทย์และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นภาวะกระเพาะปัสสาวะหย่อน แพทย์แนะนำให้ คุณยายแก้ว ฝึกบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน และใส่แผ่นรองซับเมื่อมีการปัสสาวะเล็ด

ข้อคิด: ภาวะกระเพาะปัสสาวะหย่อนไม่ใช่เรื่องน่าอายและสามารถรักษาได้

ลักษณะพิเศษของกระเพาะปัสสาวะผู้หญิง

เรื่องที่ 3

คุณป้าบุญมี อายุ 70 ปี มีอาการปัสสาวะเป็นเลือดและปวดท้องน้อย เธอคิดว่าเป็นอาการจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ จึงซื้อยามารับประทานเอง

มีขนาดเล็กกว่า:

หลังจากรับประทานยาไปได้สักระยะ อาการของ คุณป้าบุญมี ไม่ดีขึ้น เธอกลับมีอาการปวดท้องน้อยมากขึ้น จึงไปพบแพทย์และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

ข้อคิด: อย่าซื้อยามารับประทานเองเมื่อมีอาการผิดปกติของกระเพาะปัสสาวะ เพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยและควรหลีกเลี่ยง

  • ไม่ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ: การดื่มน้ำเปล่าในปริมาณที่เพียงพอช่วยเจือจางปัสสาวะและลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
  • กลั้นปัสสาวะ: การกลั้นปัสสาวะเป็นเวลานานทำให้แบคทีเรียมีเวลาเจริญเติบโตในกระเพาะปัสสาวะและท่อปัสสาวะได้ง่ายขึ้น
  • การสวนล้างช่องคลอด: การสวนล้างช่องคลอดอาจทำให้เกิดการระคายเคืองและนำแบคทีเรียเข้าไปในท่อปัสสาวะได้
  • การใช้สเปรย์หรือผงสำหรับทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศ: ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
  • การสูบบุหรี่: การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและโรคมะเร็ง รวมถึงมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

ข้อดีและข้อเสียของการรักษาโรคกระเพาะปัสสาวะ

การรับประทานยา

ข้อดี:

  • ได้ผลดีในการรักษาการติดเชื้อ

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss