Position:home  

ประเพณีชักพระ: สายใยแห่งศรัทธาและการสืบทอดวัฒนธรรม

ประเพณีชักพระถือเป็นหนึ่งในประเพณีอันงดงามที่สืบทอดกันมายาวนานในสังคมไทย เปรียบเสมือนสายใยที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกัน ผ่านความศรัทธาและการสืบทอดวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า

ความเป็นมาของประเพณีชักพระ

ประเพณีชักพระมีจุดเริ่มต้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อครั้งที่พระเจ้าบรมโกศทรงโปรดให้จัดงานแข่งขันเรือพระ เพื่อเป็นการสมโภชพระพุทธรูปองค์ใหม่ที่อัญเชิญมาจากวัดราชบูรณะ เชื่อกันว่าพระมหากษัตริย์จะเสด็จลงประทับบนเรือพระ และนำขบวนล่องไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาพร้อมกับเรือพระลำอื่นๆ

ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ประเพณีชักพระได้แพร่หลายไปยังวัดต่างๆ ทั่วราชอาณาจักร โดยกำหนดให้จัดขึ้นในช่วงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 หรือตรงกับช่วงเทศกาลลอยกระทง ถือเป็นการบูชาพระพุทธเจ้าและแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษ

ความสำคัญของประเพณีชักพระ

ประเพณีชักพระมีความสำคัญทั้งในแง่ทางศาสนาและวัฒนธรรม ดังนี้

ประเพณีชักพระ

ทางศาสนา ประเพณีชักพระเป็นการบูชาพระพุทธเจ้าและแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบรรพบุรุษที่ได้อุทิศตนสร้างวัดวาอารามและพระพุทธรูป นอกจากนี้ยังเป็นการแสดงความศรัทธาในพระพุทธศาสนา และการร่วมแรงร่วมใจกันของชุมชน

ทางวัฒนธรรม ประเพณีชักพระเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมายาวนาน ช่วยรักษาและส่งเสริมเอกลักษณ์ของชาติไทย แสดงออกถึงความวิจิตรบรรจงและความคิดสร้างสรรค์ในการประดับตกแต่งเรือพระ รวมถึงการแสดงศิลปะวัฒนธรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นควบคู่ไปกับการชักพระ อาทิ การร้องเพลงเรือ การแสดงดนตรีพื้นบ้าน

การเตรียมงานประเพณีชักพระ

การเตรียมงานประเพณีชักพระเริ่มต้นตั้งแต่หลายเดือนก่อนวันงาน โดยชาวบ้านจะร่วมมือกันสร้างเรือพระจากวัสดุต่างๆ เช่น ไม้ไผ่และไม้กระดาน เรือพระจะถูกตกแต่งอย่างวิจิตรบรรจงด้วยผ้าหลากสี ประดับประดาลวดลายไทยอันงดงาม พร้อมกับประดิษฐานพระพุทธรูปไว้ด้านหน้า

นอกจากการสร้างเรือพระแล้ว ชาวบ้านยังเตรียมอาหารคาวหวาน ขนมต่างๆ และของใช้จำเป็นสำหรับการจัดงาน อาทิ ข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม เพื่อเตรียมพร้อมต้อนรับแขกและผู้เข้าร่วมงาน

ประเพณีชักพระ: สายใยแห่งศรัทธาและการสืบทอดวัฒนธรรม

วันงานประเพณีชักพระ

ในวันงานประเพณีชักพระ ชาวบ้านจะนำเรือพระมาประกอบพิธีที่หน้าวัด โดยพระสงฆ์จะทำพิธีสวดและเจิมเรือพระ เพื่อความเป็นสิริมงคล จากนั้นจะอัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานบนเรือพระ

ทางศาสนา

การชักพระจะเริ่มต้นเมื่อพระสงฆ์สวดถวายพระพรเสร็จสิ้น โดยผู้ชายวัยฉกรรจ์จะแบ่งออกเป็นสองฝ่าย คือ ฝ่ายชักเรือและฝ่ายสกัดเรือ ฝ่ายชักเรือจะนำเชือกยาวผูกติดกับเสาเรือพระและช่วยกันชักลากเรือพระไปตามแม่น้ำหรือคลองที่กำหนดไว้ ส่วนฝ่ายสกัดเรือจะคอยดึงเชือกเพื่อชะลอความเร็วของเรือพระและประคองไม่ให้ล้มคว่ำ

การชักพระจะดำเนินไปจนกว่าจะถึงจุดหมายปลายทางที่กำหนดไว้ เมื่อถึงแล้วจะทำพิธีถวายพระพุทธรูปและการละเล่นต่างๆ ที่จัดขึ้นบริเวณนั้น

ความเชื่อและประเพณีที่เกี่ยวข้องกับประเพณีชักพระ

นอกจากความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมแล้ว ประเพณีชักพระยังแฝงไปด้วยความเชื่อและประเพณีที่น่าสนใจ เช่น

  • เรือพระนำโชคลาภ: เชื่อกันว่าการได้ชักลากเรือพระหรือสกัดเรือพระจะนำมาซึ่งโชคลาภและความเป็นสิริมงคล
  • การแข่งขันเรือพระ: ในบางพื้นที่ เช่น ภาคเหนือและภาคอีสาน มีการจัดการแข่งขันเรือพระเพื่อความสนุกสนานและสร้างความสามัคคี
  • การทอดผ้าบังสุกุล: หลังจากเสร็จสิ้นการชักพระแล้ว ชาวบ้านจะร่วมกันทอดผ้าบังสุกุล เพื่ออุทิษส่วนกุศลให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

ประโยชน์ของประเพณีชักพระ

ประเพณีชักพระนอกจากจะแสดงออกถึงความศรัทธาและการสืบทอดวัฒนธรรมแล้ว ยังมีประโยชน์อีกมากมาย ได้แก่

  • การอนุรักษ์วัฒนธรรม: ประเพณีชักพระช่วยรักษาและส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมไทย ให้คงอยู่และสืบทอดต่อไป
  • การสร้างความสามัคคี: การร่วมแรงร่วมใจกันเตรียมงานและจัดงานประเพณีชักพระช่วยสร้างความสามัคคีและความสัมพันธ์อันดีในชุมชน
  • การส่งเสริมการท่องเที่ยว: ประเพณีชักพระเป็นหนึ่งในกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมประเทศไทย และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น

การสืบทอดประเพณีชักพระ

เพื่อให้ประเพณีชักพระคงอยู่และสืบทอดต่อไปในอนาคต จำเป็นต้องมีการส่งเสริมและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถดำเนินการได้ผ่านกลยุทธ์ต่างๆ ดังนี้

  • การปลูกฝังให้เยาวชน: สอนเยาวชนเกี่ยวกับประเพณีชักพระ ความสำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรม เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจและการอนุรักษ์
  • การสนับสนุนชุมชน: สนับสนุนชุมชนในด้านการจัดงานประเพณีชักพระ การจัดเตรียมสถานที่ และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชาวบ้าน
  • การส่งเสริมการท่องเที่ยว: จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวประเพณีชักพระ เพื่อเพิ่มการรับรู้และความสนใจในหมู่นักท่องเที่ยว

เรื่องราวชวนหัวและข้อคิดจากประเพณีชักพระ

ประเพณีชักพระมักมีเรื่องราวชวนหัวและข้อคิดที่น่าสนใจ เช่น

  • เรือพระล่มกลางแม่น้ำ: ครั้งหนึ่งมีการจัดงานประเพณีชักพระในจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง แต่ด้วยความตื่นเต้นและความสนุกสนาน ทำให้ชาวบ้านชักเรือพระเบี่ยงไปชนเข้ากับเสาหลักจนเรือพระล่มลงกลางแม่น้ำ ผู้เข้าร่วมงานต่างพากันตกใจและหัวเราะกันอย่างครื้นเครง แต่ก็สามารถช่วยกันกู้เรือพระขึ้นมาและจัดงานต่อไปได้
    ข้อคิด: แม้จะทำกิจกรรมด้วยความสนุกสนาน แต่ก็ต้องระมัดระวังและคำนึงถึงความปลอดภัยด้วย

  • ควายหลุดเข้ามาในงาน: อีกเรื่องหนึ่งเกิดขึ้นในจังหวัดทางภาคอีสาน ขณะที่กำลังจัดงานประเพณีชักพระอยู่นั้น ได้มีควายตัวหนึ่งหลุดเข้ามาในงาน และวิ่งเข้าชนเรือพระอย่างแรงจนเรือพระล้มลง ชาวบ้านที่อยู่ในงานต่างตกใจและวิ่งหนีกันคนละทิศละทาง
    ข้อคิด: สิ่งที่ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ต้องมีสติและตั้งรับกับเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ

  • ผู้ใหญ่บ้านเผลอหลับบนเรือพระ: ในอีกงานหนึ่งที่จังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง ผู้ใหญ่บ้านเผลอหลับบนเรือพระขณะที่กำลังชักพระ ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ข้างหลังชักเรือไปอย่างไม่รู้ตัว จนกระทั่งผู้ใหญ่บ้านตื่นขึ้นและเห็นว่าเรือพระเพิ่งวิ่งผ่านจุดหมายปลายทางไปแล้ว
    ข้อคิด:

Time:2024-09-06 07:35:53 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss