ในยุคดิจิทัลที่การสื่อสารและการทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์กลายเป็นเรื่องปกติธรรมดา เบอร์มิจฉาชีพก็ได้กลายเป็นภัยคุกคามที่ซ่อนเร้นอยู่รอบตัวเราและพร้อมที่จะฉกฉวยโอกาสทุกเมื่อ
จากข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าในปี 2564 มีการรับแจ้งคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสูงถึง 73,637 คดี คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 5,362 ล้านบาท และเบอร์มิจฉาชีพก็คิดเป็นสัดส่วนถึง 80% ของคดีอาชญากรรมเหล่านี้
เบอร์มิจฉาชีพคือใคร
เบอร์มิจฉาชีพคือผู้ที่ใช้เบอร์โทรศัพท์เพื่อกระทำการหลอกลวง ฉ้อโกง หรือสร้างความเสียหายแก่บุคคลอื่น ซึ่งอาจทำได้หลายวิธี เช่น
กลอุบายของเบอร์มิจฉาชีพ
เบอร์มิจฉาชีพมักใช้กลอุบายต่างๆ เพื่อล่อให้ผู้รับสายหลงเชื่อและตกหลุมพราง เช่น
1. สร้างความรู้สึกเร่งด่วน
เบอร์มิจฉาชีพจะพยายามทำให้ผู้รับสายรู้สึกว่าต้องตัดสินใจหรือกระทำการในทันที โดยอ้างว่าเป็นโอกาสสุดท้ายหรือเสนอสิ่งของหรือบริการที่ไม่สามารถปฏิเสธได้
2. ใช้ภาษาที่น่าเชื่อถือและดูเป็นทางการ
เบอร์มิจฉาชีพจะใช้ภาษาที่สุภาพและดูเป็นทางการ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและทำให้ผู้รับสายรู้สึกเกรงใจหรือลังเลที่จะปฏิเสธ
3. เสนอสิ่งที่ดูเหมือนดีเกินจริง
เบอร์มิจฉาชีพจะเสนอสิ่งที่ดูเหมือนดีเกินจริง เช่น รางวัลมูลค่าสูง บัตรกำนัลฟรี หรือโอกาสทางธุรกิจที่ไม่ต้องใช้ความพยายาม
4. สร้างความรู้สึกกลัวหรือสูญเสีย
เบอร์มิจฉาชีพจะพยายามสร้างความรู้สึกกลัวหรือสูญเสีย เช่น อ้างว่าบัญชีธนาคารของผู้รับสายถูกแฮ็กหรือมีหมายจับจากหน่วยงานราชการ
วิธีรับมือและป้องกันเบอร์มิจฉาชีพ
เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของเบอร์มิจฉาชีพ เราสามารถทำตามคำแนะนำต่อไปนี้:
หากไม่คุ้นเคยกับหมายเลขที่โทรเข้าหรือ SMS ควรตรวจสอบก่อนว่าเป็นเบอร์ที่น่าเชื่อถือหรือไม่ โดยสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมจากอินเทอร์เน็ตหรือแอปพลิเคชัน Truecaller
อย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางการเงินใดๆ เช่น หมายเลขบัตรเครดิต รหัส OTP หรือรหัสผ่านแก่ผู้ที่ไม่รู้จักเด็ดขาด
ลิงก์หรือไฟล์แนบจากผู้ที่ไม่รู้จักอาจติดมัลแวร์หรือไวรัสที่สามารถขโมยข้อมูลหรือควบคุมอุปกรณ์ได้
ใช้รหัสผ่านที่ปลอดภัยและเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นประจำ เพื่อป้องกันการถูกแฮ็กบัญชีหรือข้อมูลส่วนตัว
ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสสามารถช่วยป้องกันมัลแวร์และไวรัสได้ ติดตั้งและอัปเดตซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสเป็นประจำ
บทเรียนจากเรื่องจริง
บทเรียน: อย่าหลงเชื่อในเรื่องราวที่ดูดีเกินจริงและอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวแก่ผู้ที่ไม่รู้จัก
บทเรียน: อย่าคลิกลิงก์จากผู้ที่ไม่รู้จักและอย่าเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางการเงินในช่องทางออนไลน์ที่ไม่ปลอดภัย
บทเรียน: อย่าเชื่อมั่นในเจ้าหน้าที่ที่ติดต่อมาทางโทรศัพท์และอย่าโอนเงินไปยังบัญชีที่ไม่รู้จัก
ตารางที่ 1: สถิติคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสูงในประเทศไทย
ปี | จำนวนคดี | มูลค่าความเสียหาย |
---|---|---|
2561 | 50,877 | 3,860 ล้านบาท |
2562 | 65,013 | 4,873 ล้านบาท |
2563 | 72,331 | 5,219 ล้านบาท |
2564 | 73,637 | 5,362 ล้านบาท |
ตารางที่ 2: กลอุบายที่ใช้บ่อยของเบอร์มิจฉาชีพ
กลอุบาย | ตัวอย่าง |
---|---|
สร้างความรู้สึกเร่งด่วน | "คุณได้รับรางวัลมูลค่า 1 ล้านบาท โปรดตอบกลับภายใน 24 ชั่วโมง" |
ใช้ภาษาที่น่าเชื่อถือและดูเป็นทางการ | "สวัสดีค่ะ ฉันเป็นเจ้าหน้าที่จากธนาคารแห่งประเทศไทย ขอทราบหมายเลขบัตรเครดิตเพื่อยืนยันตัวตน" |
เสนอสิ่งที่ดูเหมือนดีเกินจริง | "ลงทุนกับเราเพียง 10,000 บาท แล้วรับกำไร 100,000 บาทภายใน 1 เดือน" |
สร้างความรู้สึกกลัวหรือสูญเสีย | "บัญชีธนาคารของคุณถูกแฮ็กและจะถูกอายัดหากไม่ดำเนินการภายใน 1 ชั่วโมง" |
ตารางที่ 3: สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำเมื่อรับสายจากเบอร์มิจฉาชีพ
ควรทำ | ไม่ควรทำ |
---|---|
ตรวจสอบที่มาของสายก่อน | หลงเชื่อและให้ข้อมูลส่วนตัวทันที |
ตั้งคำถามและขอข้อมูลเพิ่มเติม | เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลทางการเงินโดยไม่ไตร่ตรอง |
ปรึกษาผู้อื่นหรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง | ตัดสินใจและดำเนินการด้วยตัวเองโดยไม่ขอคำแนะนำ |
เก็บหลักฐานการสนทนา | ลบทิ้งหรือไม่เก็บหลักฐานไว้ |
คำถามที่พบบ่อย
1. เบอร์มิจฉาชีพมาจากไหน
เบอร์มิจฉาชีพอาจมาจากประเทศต่างๆ เช่น จีน ลาว กัมพูชา หรือแม้แต่ในประเทศไทยเอง
**2. เบอร์มิจฉา
2024-08-01 02:38:21 UTC
2024-08-08 02:55:35 UTC
2024-08-07 02:55:36 UTC
2024-08-25 14:01:07 UTC
2024-08-25 14:01:51 UTC
2024-08-15 08:10:25 UTC
2024-08-12 08:10:05 UTC
2024-08-13 08:10:18 UTC
2024-08-01 02:37:48 UTC
2024-08-05 03:39:51 UTC
2024-09-06 06:52:43 UTC
2024-09-09 12:57:03 UTC
2024-09-09 12:57:33 UTC
2024-10-17 01:33:03 UTC
2024-10-17 01:33:03 UTC
2024-10-17 01:33:03 UTC
2024-10-17 01:33:03 UTC
2024-10-17 01:33:02 UTC
2024-10-17 01:33:02 UTC
2024-10-17 01:33:02 UTC
2024-10-17 01:33:02 UTC