เค้กกล้วยหอม pimmy: ความหวานละมุนที่ทุกคนต้องหลงรัก

เค้กกล้วยหอม pimmy เป็นสูตรเค้กแสนอร่อยที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย ด้วยรสชาติที่หอมหวาน ละมุนละไม และเนื้อเค้กที่นุ่มชุ่มฉ่ำ ทำให้ใครๆ ก็หลงรักได้อย่างง่ายดาย สูตรนี้โดดเด่นด้วยการใช้กล้วยหอมสุกงอมที่ให้ความหวานธรรมชาติและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเค้ก อีกทั้งยังมีอัลมอนด์สไลซ์ที่เพิ่มความกรุบกรอบและสัมผัสที่น่าทึ่งให้กับทุกคำ

ประวัติความเป็นมา

สูตรเค้กกล้วยหอม pimmy มีจุดเริ่มต้นมาจากคุณพิม ประภาวดี จิราธิวัฒน์ หรือ Pimmy Pimprapa ที่ได้แบ่งปันสูตรเค้กกล้วยหอมแสนอร่อยของเธอผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากผู้คนมากมาย สูตรนี้ได้กลายเป็นกระแสไวรัลในชั่วข้ามคืน และผู้คนต่างก็ทำตามสูตรนี้กันอย่างแพร่หลาย ด้วยรสชาติที่อร่อยและขั้นตอนการทำที่ง่ายดาย จึงไม่แปลกใจเลยที่เค้กกล้วยหอม pimmy จะกลายมาเป็นที่รักของคนไทยทั่วทั้งประเทศ

เคล็ดลับความอร่อย

เคล็ดลับในการทำเค้กกล้วยหอม pimmy ให้ได้รสชาติที่อร่อยลงตัวนั้นมีหลายประการ ต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางประการที่สามารถช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการทำเค้กกล้วยหอม pimmy:

• เลือกกล้วยหอมที่สุกงอม กล้วยหอมที่สุกงอมจะให้ความหวานและความชุ่มชื้นแก่เค้กเป็นอย่างดี
• บดกล้วยหอมให้ละเอียด การบดกล้วยหอมให้ละเอียดจะช่วยให้ส่วนผสมต่างๆ เข้ากันได้ดีขึ้นและทำให้เนื้อเค้กเนียนนุ่ม
• ใช้เนยจืดที่นุ่ม เนยจืดที่นุ่มจะช่วยให้เค้กมีความชุ่มชื้นและนุ่มฟู
• ผสมส่วนผสมให้เข้ากันอย่างทั่วถึง การผสมส่วนผสมให้เข้ากันอย่างทั่วถึงจะช่วยให้เค้กมีเนื้อเนียนและรสชาติกลมกล่อม
• อบเค้กที่อุณหภูมิที่เหมาะสม อุณหภูมิในการอบที่เหมาะสมจะช่วยให้เค้กสุกอย่างสม่ำเสมอและไม่ไหม้

สูตรเค้กกล้วยหอม pimmy

ต่อไปนี้คือส่วนผสมและขั้นตอนการทำเค้กกล้วยหอม pimmy:

ส่วนผสม:

• กล้วยหอมสุกงอม 3 ลูก
• เนยจืดที่นุ่ม 1/2 ถ้วย
• น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
• ไข่ไก่ 2 ฟอง
• แป้งเค้ก 1 1/2 ถ้วย
• ผงฟู 1 ช้อนชา
• โซดาคุกกี้ 1/2 ช้อนชา
• เกลือ 1/4 ช้อนชา
• อัลมอนด์สไลซ์ 1/2 ถ้วย

ขั้นตอนการทำ:

1. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 175 องศาเซลเซียส
2. เตรียมพิมพ์เค้กขนาด 8 นิ้ว โดยทาเนยและโรยแป้งบางๆ
3. ในชามขนาดใหญ่ บดกล้วยหอมให้ละเอียด
4. ในชามอีกใบหนึ่ง ตีเนยและน้ำตาลทรายด้วยความเร็วสูงจนเนื้อเนียนฟู
5. ใส่ไข่ไก่ทีละฟอง ตีให้เข้ากัน
6. ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู โซดาคุกกี้ และเกลือเข้าด้วยกัน
7. สลับกันใส่ส่วนผสมแห้งและส่วนผสมกล้วยหอมลงในชามเนย ตีให้เข้ากันจนเนื้อเนียน
8. ใส่แอลมอนด์สไลซ์ลงในส่วนผสม
9. เทส่วนผสมเค้กลงในพิมพ์ที่เตรียมไว้
10. อบเค้กประมาณ 50-60 นาทีหรือจนกว่าจะสุก เมื่อเสียบไม้จิ้มฟันลงไปแล้วไม่มีเศษเค้กติดออกมา
11. นำเค้กออกจากเตาอบแล้วพักให้เย็นบนตะแกรงก่อนเสิร์ฟ

เทคนิคการตกแต่งเค้กกล้วยหอม pimmy

มีหลายวิธีในการตกแต่งเค้กกล้วยหอม pimmy เพื่อให้ดูน่ารับประทานยิ่งขึ้น ต่อไปนี้คือเทคนิคบางประการ:

• โรยหน้าด้วยผงน้ำตาล ผงน้ำตาลจะช่วยเพิ่มรสชาติหวานละมุนและทำให้เค้กดูสวยงาม
• ราดน้ำเชื่อมกล้วย น้ำเชื่อมกล้วยจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความหวานให้กับเค้ก
• ตกแต่งด้วยผลไม้สด ผลไม้สดเช่นสตรอเบอร์รี่หรือบลูเบอร์รี่จะช่วยเพิ่มสีสันและความสดชื่นให้กับเค้ก
• ปาดครีมชีสฟรอสติ้ง ครีมชีสฟรอสติ้งจะช่วยเพิ่มความนุ่มละมุนและความอร่อยให้กับเค้ก

สูตรน้ำเชื่อมกล้วย

น้ำเชื่อมกล้วยเป็นส่วนผสมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความหวานให้กับเค้ก ต่อไปนี้คือส่วนผสมและขั้นตอนการทำน้ำเชื่อมกล้วย:

ส่วนผสม:

• กล้วยหอมสุกงอม 2 ลูก
• น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
• น้ำ 1/4 ถ้วย

ขั้นตอนการทำ:

1. หั่นกล้วยหอมเป็นชิ้นเล็กๆ
2. ในกระทะขนาดเล็ก ผสมกล้วยหอม น้ำตาลทราย และน้ำ
3. นำไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนกล้วยหอมนุ่มและน้ำเชื่อมข้น
4. นำน้ำเชื่อมกล้วยออกจากความร้อนแล้วพักให้เย็นก่อนนำไปใช้

คุณค่าทางโภชนาการ

เค้กกล้วยหอม pimmy เป็นอาหารว่างหรือขนมหวานที่ให้คุณค่าทางโภชนาการพอสมควร แต่ก็ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม ต่อไปนี้คือคุณค่าทางโภชนาการโดยประมาณสำหรับเค้กกล้วยหอม pimmy ขนาด 1 ชิ้น:

• พลังงาน 250 แคลอรี
• ไขมัน 10 กรัม
• โปรตีน 5 กรัม
• คาร์โบไฮเดรต 40 กรัม
• น้ำตาล 15 กรัม
• ใยอาหาร 5 กรัม

ตารางที่ 1: คุณค่าทางโภชนาการของเค้กกล้วยหอม pimmy

ประโยชน์ของการรับประทานเค้กกล้วยหอม pimmy

การรับประทานเค้กกล้วยหอม pimmy อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพเนื่องจากส่วนผสมที่มีประโยชน์ ต่อไปนี้คือประโยชน์บางประการของการรับประทานเค้กกล้วยหอม pimmy:

• อุดมไปด้วยโพแทสเซียม กล้วยเป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
• มีใยอาหารสูง กล้วยมีใยอาหารสูง ซึ่งช่วยส่งเสริมสุขภาพของระบบย่อยอาหารและช่วยให้รู้สึกอิ่ม
• อุดมไปด้วยวิตามินบี 6 กล้วยเป็นแหล่งวิตามินบี 6 ที่ดี ซึ่งเป็นวิตามินที่จำเป็นต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและการทำงานของระบบประสาท
• มีสารต้านอนุมูลอิสระ กล้วยมีสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยปกป้องเซลล์ในร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ

**ตารางที่ 2: ประโยชน์ของ