ม่อน สุธีราวานิชก์ เป็นนักวิจัยและนักพัฒนาพันธุ์ข้าวผู้ยิ่งใหญ่ของไทยที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการพัฒนาพันธุ์ข้าวของไทยให้มีคุณภาพสูงและผลผลิตมากขึ้น ผลงานการวิจัยของเธอได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ และพันธุ์ข้าวที่เธอพัฒนาขึ้นได้ถูกนำไปปลูกอย่างแพร่หลายในหลายประเทศทั่วโลก
ม่อน สุธีราวานิชก์ เกิดที่จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2477 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่งจากคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัย Cornell ประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มต้นอาชีพนักวิจัยที่กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ในช่วงทศวรรษที่ 1960 ม่อน สุธีราวานิชก์ ได้ร่วมทีมวิจัยพัฒนาพันธุ์ข้าว KDML 105 หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ข้าวเจ้าหอมมะลิ 105" ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวหอมมะลิพันธุ์แรกของไทยที่มีผลผลิตสูงและมีคุณสมบัติที่โดดเด่น เช่น กลิ่นหอม เมล็ดเรียวสวย และมีความต้านทานโรคได้ดี ข้าวเจ้าหอมมะลิ 105 ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และกลายเป็นพันธุ์ข้าวหลักที่ส่งออกของไทยในปัจจุบัน
ตลอดชีวิตการทำงานของม่อน สุธีราวานิชก์ เธอได้พัฒนาพันธุ์ข้าวมากกว่า 50 สายพันธุ์ รวมถึงพันธุ์ข้าวเจ้าที่มีคุณภาพสูง เช่น ข้าวหอมปทุมธานี 1 และข้าวหอมมะลิ 105 และพันธุ์ข้าวเหนียว เช่น ข้าวเหนียว สก 5 และข้าวเหนียว กข 6 ซึ่งล้วนเป็นพันธุ์ข้าวที่ได้รับความนิยมและปลูกอย่างแพร่หลายในประเทศไทย
ผลงานการวิจัยของม่อน สุธีราวานิชก์ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ เธอได้รับรางวัลมากมายจากองค์กรต่างๆ เช่น รางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นแห่งชาติ สาขาเกษตรศาสตร์ ประจำปี 2530 รางวัลนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาเกษตรศาสตร์ ประจำปี 2534 และรางวัลเกียรติยศจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี 2547
ม่อน สุธีราวานิชก์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 แต่ผลงานและมรดกของเธอจะยังคงอยู่ในวงการข้าวไทยต่อไป ผลงานการวิจัยของเธอได้ช่วยยกระดับคุณภาพและผลผลิตข้าวไทยให้สูงขึ้น และทำให้ข้าวไทยเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในระดับโลก
เพื่อเป็นเกียรติแก่ผลงานของม่อน สุธีราวานิชก์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้จัดตั้ง "ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าว ม่อน สุธีราวานิชก์" ขึ้น เพื่อสืบสานงานวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวของเธอต่อไป
การพัฒนาพันธุ์ข้าวเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงทางอาหารของประเทศไทยและทั่วโลก ข้าวเป็นอาหารหลักของประชากรกว่าครึ่งหนึ่งของโลก และความต้องการข้าวก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของประชากรโลก การพัฒนาพันธุ์ข้าวที่มีผลผลิตสูงและต้านทานโรคได้ดีจึงมีความจำเป็นเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นนี้
ตามข้อมูลขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ผลผลิตข้าวเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ประมาณ 3.5 ตันต่อเฮกตาร์ อย่างไรก็ตาม ในประเทศไทย ผลผลิตข้าวเฉลี่ยสูงกว่า 4 ตันต่อเฮกตาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากความสำเร็จของโครงการพัฒนาพันธุ์ข้าว รวมถึงผลงานของม่อน สุธีราวานิชก์
แม้ว่าการพัฒนาพันธุ์ข้าวจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็มีหลายปัจจัยที่ท้าทายในการพัฒนาพันธุ์ข้าวที่มีผลผลิตสูงและต้านทานโรคได้ดี ปัจจัยเหล่านี้ ได้แก่
ประเทศ | ผลผลิตเฉลี่ย (ตัน/เฮกตาร์) |
---|---|
จีน | 6.1 |
อินเดีย | 3.0 |
ไทย | 4.1 |
เวียดนาม | 5.4 |
สหรัฐอเมริกา | 7.2 |
สายพันธุ์ | ประเภทข้าว | คุณสมบัติ |
---|---|---|
ข้าวเจ้าหอมมะลิ 105 | ข้าวเจ้า | กลิ่นหอม เมล็ดเรียวสวย ต้านทานโรค |
ข้าวหอมปทุมธานี 1 | ข้าวเจ้า | กลิ่นหอม ผลผลิตสูง ต้านทานโรค |
ข้าวเหนียว สก 5 | ข้าวเหนียว | ผลผลิตสูง ต้านทานโรค |
ข้าวเหนียว กข 6 | ข้าวเหนียว | คุณภาพดี ผลผลิตสูง |
ความท้าทาย | ผลกระทบ |
---|---|
การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ | ภัยแล้ง น้ำท่วม อุณหภูมิสูงขึ้น |
โรคและแมลงศัตรูพืช | สูญเสียผลผลิต คุณภาพต่ำ |
การขาดแคลนน้ำ | จำกัดการผลิตข้าว |
การขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพ | ผลผลิตต่ำ คุณภาพต่ำ |
มีข้อผิดพลาดทั่วไปหลายประการที่ควรหลีกเลี่ยงในการพัฒนาพันธุ์ข้าว ข้อผิดพลาดเหล่านี้ ได้แก่
2024-08-01 02:38:21 UTC
2024-08-08 02:55:35 UTC
2024-08-07 02:55:36 UTC
2024-08-25 14:01:07 UTC
2024-08-25 14:01:51 UTC
2024-08-15 08:10:25 UTC
2024-08-12 08:10:05 UTC
2024-08-13 08:10:18 UTC
2024-08-01 02:37:48 UTC
2024-08-05 03:39:51 UTC
2024-09-07 04:01:47 UTC
2024-09-07 04:02:15 UTC
2024-09-07 00:37:48 UTC
2024-09-05 10:52:06 UTC
2024-09-05 10:52:31 UTC
2024-09-05 03:31:29 UTC
2024-09-05 03:31:57 UTC
2024-09-09 01:40:05 UTC
2024-10-19 01:33:05 UTC
2024-10-19 01:33:04 UTC
2024-10-19 01:33:04 UTC
2024-10-19 01:33:01 UTC
2024-10-19 01:33:00 UTC
2024-10-19 01:32:58 UTC
2024-10-19 01:32:58 UTC