Position:home  

เลือดที่หลั่งให้กับอะไร?

ในโลกแห่งการลงทุนนั้น การคาดการณ์ความเสี่ยงถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งยวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ดังเช่นที่เราได้เห็นมาแล้วในกรณีของวิกฤติซับไพรม์ในปี 2008 ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียทางการเงินอย่างมหาศาล

ความเสี่ยงคืออะไร?

ความเสี่ยงทางการเงิน หมายถึง ความไม่แน่นอนของผลตอบแทนการลงทุนที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งความเสี่ยงนี้สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท ดังนี้

there will be blood

  • ความเสี่ยงเชิงระบบ (Systematic Risk) เป็นความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนทั้งหมดในตลาด เช่น ความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือความเสี่ยงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง
  • ความเสี่ยงที่ไม่สามารถกระจายได้ (Unsystematic Risk) เป็นความเสี่ยงที่เฉพาะเจาะจงต่อบริษัทหรืออุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง เช่น ความเสี่ยงจากการที่บริษัทประสบปัญหาทางการเงิน หรือความเสี่ยงจากการที่อุตสาหกรรมนั้นตกต่ำ

การวัดความเสี่ยง

การวัดความเสี่ยงทางการเงินนั้นสามารถทำได้หลายวิธี โดยวิธีที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย ได้แก่

  • ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) เป็นตัวเลขที่แสดงถึงความผันผวนของผลตอบแทนการลงทุน โดยค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานที่สูงบ่งชี้ถึงความเสี่ยงที่สูงเช่นกัน
  • ค่าเบต้า (Beta) เป็นตัวเลขที่วัดความสัมพันธ์ระหว่างผลตอบแทนการลงทุนกับผลตอบแทนของตลาดโดยรวม โดยค่าเบต้าที่สูงบ่งชี้ถึงความเสี่ยงเชิงระบบที่สูง
  • อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk-Reward Ratio) เป็นตัวเลขที่วัดความสัมพันธ์ระหว่างผลตอบแทนการลงทุนกับความเสี่ยง โดยอัตราส่วนที่สูงบ่งชี้ถึงการลงทุนที่มีศักยภาพในการสร้างผลกำไรที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับความเสี่ยง

การบริหารความเสี่ยง

การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักลงทุนทุกประเภท โดยมีวิธีการบริหารความเสี่ยงที่หลากหลาย ได้แก่

  • การกระจายการลงทุน (Diversification) เป็นการลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทที่มีความสัมพันธ์กันต่ำ เพื่อลดความเสี่ยงโดยรวมของพอร์ตโฟลิโอ เช่น การลงทุนในหุ้น พันธบัตร และอสังหาริมทรัพย์
  • การป้องกันความเสี่ยง (Hedging) เป็นกลยุทธ์ที่ใช้เครื่องมือทางการเงิน เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้า และออปชัน เพื่อลดความเสี่ยงบางประเภท
  • การจัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation) เป็นกระบวนการแบ่งสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ตามระดับความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้

ความสำคัญของการบริหารความเสี่ยง

การบริหารความเสี่ยงมีประโยชน์หลายประการ ได้แก่

เลือดที่หลั่งให้กับอะไร?

  • ลดผลขาดทุน การบริหารความเสี่ยงช่วยลดความน่าจะเป็นและความรุนแรงของผลขาดทุนจากการลงทุน
  • เพิ่มผลตอบแทน การบริหารความเสี่ยงช่วยเพิ่มศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนโดยรวมของพอร์ตโฟลิโอ
  • ปกป้องเงินต้น การบริหารความเสี่ยงช่วยปกป้องเงินต้นลงทุนจากความผันผวนของตลาดและความเสี่ยงอื่นๆ

บทสรุป

ความเสี่ยงทางการเงินเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในการลงทุน ดังนั้นการบริหารความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักลงทุนทุกประเภทเพื่อลดผลขาดทุน เพิ่มผลตอบแทน และปกป้องเงินต้นลงทุน โดยการวัดความเสี่ยงและการใช้กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม นักลงทุนสามารถเพิ่มความปลอดภัยและความสำเร็จในการลงทุนของตนเองได้

เลือดที่หลั่งให้กับอะไร?

ตารางที่ 1: ความเสี่ยงทางการเงินที่พบบ่อย

ประเภทความเสี่ยง คำอธิบาย ตัวอย่าง
ความเสี่ยงเชิงระบบ ความเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนทั้งหมดในตลาด ความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย, ความเสี่ยงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ความเสี่ยงที่ไม่สามารถกระจายได้ ความเสี่ยงที่เฉพาะเจาะจงต่อบริษัทหรืออุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง ความเสี่ยงจากการที่บริษัทประสบปัญหาทางการเงิน, ความเสี่ยงจากการที่อุตสาหกรรมนั้นตกต่ำ
ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย ความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ย ความเสี่ยงจากการที่อัตราดอกเบี้ยปรับขึ้น, ความเสี่ยงจากการที่อัตราดอกเบี้ยปรับลง
ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน ความเสี่ยงจากการที่ค่าเงินของประเทศหนึ่งแข็งค่า, ความเสี่ยงจากการที่ค่าเงินของประเทศหนึ่งอ่อนค่า
ความเสี่ยงจากสภาพคล่อง ความเสี่ยงที่เกิดจากการที่สินทรัพย์ไม่สามารถซื้อหรือขายได้อย่างรวดเร็ว ความเสี่ยงจากการที่ตลาดหุ้นปิดตัวลง, ความเสี่ยงจากการที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซา

ตารางที่ 2: กลยุทธ์การบริหารความเสี่ยง

กลยุทธ์ คำอธิบาย
การกระจายการลงทุน การลงทุนในสินทรัพย์หลายประเภทที่มีความสัมพันธ์กันต่ำ
การป้องกันความเสี่ยง การใช้เครื่องมือทางการเงินเพื่อลดความเสี่ยงบางประเภท
การจัดสรรสินทรัพย์ การแบ่งสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ตามระดับความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้
การลดการใช้เลเวอเรจ การลดการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุน
การติดตามและการจัดการความเสี่ยง การติดตามควบคุมความเสี่ยงของพอร์ตโฟลิโอและปรับกลยุทธ์ตามความจำเป็น

ตารางที่ 3: ผลประโยชน์ของการบริหารความเสี่ยง

ผลประโยชน์ คำอธิบาย
ลดผลขาดทุน การบริหารความเสี่ยงช่วยลดความน่าจะเป็นและความรุนแรงของผลขาดทุนจากการลงทุน
เพิ่มผลตอบแทน การบริหารความเสี่ยงช่วยเพิ่มศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนโดยรวมของพอร์ตโฟลิโอ
ปกป้องเงินต้น การบริหารความเสี่ยงช่วยปกป้องเงินต้นลงทุนจากความผันผวนของตลาดและความเสี่ยงอื่นๆ
เพิ่มความมั่นใจ การบริหารความเสี่ยงช่วยเพิ่มความมั่นใจของนักลงทุนในการลงทุนของตนเอง
ปรับปรุงการตัดสินใจ การบริหารความเสี่ยงช่วยให้ข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนที่มีประจักษ์ชัดมากขึ้น

วิธีการบริหารความเสี่ยงทีละขั้นตอน

  1. ระบุความเสี่ยง ระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นและอาจส่งผลกระทบต่อการลงทุน
  2. ประเมินความเสี่ยง ประเมินความน่าจะเป็นและความรุนแรงของความเสี่ยงแต่ละประเภท
  3. พัฒนาแผนการบริหารความเสี่ยง พัฒนากลยุทธ์ที่เหมาะสมเพื่อบริหารความเสี่ยงที่ระบุ
  4. ดำเนินการตามแผน ดำเนินการตามแผนการบริหารความเสี่ยงที่ได้รับการพัฒนา
  5. ติดตามและปรับปรุง ติดตามผลการดำเนินการของแผนการบริหารความเสี่ยงและปรับปรุงตามความจำเป็น

ทำไมการบริหารความเสี่ยงจึงสำคัญ?

การบริหารความเสี่ยงมีความสำคัญเพราะช่วยให้นักลงทุนสามารถ

Time:2024-09-05 09:54:59 UTC

newthai   

TOP 10
Related Posts
Don't miss