ยาเวนโทลิน (Salbutamol) เป็นยาขยายหลอดลมที่ใช้รักษาอาการหอบหืดและหลอดลมตีบในเด็ก โดยยาชนิดนี้มีรูปแบบยาสำหรับสูดพ่นและชนิดรับประทาน
ขนาดยาเวนโทลินที่เหมาะสมสำหรับเด็กจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวของเด็ก โดยมีสูตรการคำนวณดังนี้:
ยาเวนโทลินชนิดรับประทาน:
เด็กที่มีน้ำหนักตัว 20-50 กก. รับประทานครั้งละ 2-4 มก.
เด็กที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 50 กก. รับประทานครั้งละ 4-8 มก.
รับประทานวันละ 3-4 ครั้ง
ยาเวนโทลินชนิดสูดพ่น:
ใช้เครื่องพ่นยาชนิดที่ใช้สำหรับเด็กโดยเฉพาะ
ใช้ยา 2-4 พัฟต่อครั้ง
ใช้ยาได้บ่อยเท่าที่จำเป็น แต่ไม่ควรเกิน 4 ครั้งต่อวัน
เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปีควรใช้ยาเวนโทลินตามคำสั่งของแพทย์เท่านั้น เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงได้ง่าย โดยแพทย์อาจพิจารณาใช้ยาเวนโทลินชนิดสูดพ่นพร้อมกับเครื่องพ่นยาชนิดที่ใช้สำหรับเด็กโดยเฉพาะ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาเวนโทลิน ได้แก่
เรื่องที่ 1:
เด็กชายอายุ 10 ขวบมีอาการหอบหืดมาตั้งแต่เด็ก ต้องใช้ยาพ่นเวนโทลินทุก 3-4 ชั่วโมง เมื่ออยู่ที่โรงเรียน ครูประจำชั้นก็จะพกเครื่องพ่นยาติดตัวไว้ให้เด็กชายเสมอ จนกระทั่งวันหนึ่ง เด็กชายเกิดวิ่งเล่นซนจนลืมพกเครื่องพ่นยาไปโรงเรียน พอช่วงบ่ายเริ่มมีอาการหอบหืด จึงรีบไปขอความช่วยเหลือจากคุณครู คุณครูรีบพาเด็กชายไปห้องพยาบาล และให้ยาพ่นเวนโทลินตามขนาดที่คำนวณจากน้ำหนักตัวของเด็กชาย จนอาการดีขึ้น และสามารถกลับไปเรียนหนังสือต่อได้
บทเรียนที่ได้:
เรื่องที่ 2:
เด็กหญิงอายุ 3 ขวบนึกสนุก จึงหยิบเครื่องพ่นยาเวนโทลินของพี่ชายมาเล่น และเผลอพ่นเข้าปากตัวเองไป 10 พัฟ คุณแม่ตกใจมาก รีบพาเด็กหญิงไปโรงพยาบาล แพทย์ให้เด็กหญิงนอนรอสังเกตอาการที่โรงพยาบาลเนื่องจากได้รับยาเกินขนาด โชคดีที่เด็กหญิงมีอาการเพียงแค่ใจสั่นและหายใจเร็วเล็กน้อย อาการต่างๆ ดีขึ้นหลังจากนอนพักสังเกตอาการไม่นาน
บทเรียนที่ได้:
เรื่องที่ 3:
เด็กชายอายุ 5 ขวบมีอาการไอเป็นระยะๆ คุณแม่พาไปหาแพทย์ แพทย์วินิจฉัยว่าเด็กชายมีอาการหลอดลมตีบเล็กน้อย จึงจ่ายยาพ่นเวนโทลินให้ คุณแม่เริ่มให้ลูกชายใช้ยาพ่นตามที่แพทย์สั่ง ทุกครั้งที่ใช้ลูกชายจะได้นั่งบนเก้าอี้ตัวโปรดที่คุณแม่จัดเตรียมไว้ให้เป็นพิเศษ อาการของลูกชายค่อยๆ ดีขึ้น จนสามารถวิ่งเล่นได้ตามปกติ
บทเรียนที่ได้: