ตารางละหมาดจังหวัดยะลา

พี่น้องชาวมุสลิมในจังหวัดยะลาสามารถตรวจสอบตารางเวลาละหมาดได้ที่นี่ เพื่อความสะดวกในการปฏิบัติศาสนกิจ

ขั้นตอนการใช้ตารางละหมาดจังหวัดยะลา

1. เลือกอำเภอที่คุณอาศัยอยู่จากตารางด้านล่าง
2. ตรวจสอบเวลาละหมาด 5 เวลาในแต่ละวัน

ตารางละหมาดจังหวัดยะลา

เวลาละหมาดสำหรับวันศุกร์

สำหรับวันศุกร์ เวลาละหมาดจะแตกต่างจากวันอื่นๆ เล็กน้อย โดยเวลาละหมาดซุฮฺรีจะเลื่อนไปเป็นหลังละหมาดญุมอุนะฮ์

หมายเหตุ:

• ตารางละหมาดนี้คำนวณโดยใช้ข้อมูลจากสำนักจุฬาราชมนตรี
• เวลาละหมาดอาจแตกต่างกันเล็กน้อยในแต่ละพื้นที่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์และสภาพอากาศ
• โปรดตรวจสอบเวลาละหมาดอีกครั้งก่อนละหมาดทุกครั้ง เพื่อความถูกต้องและแม่นยำที่สุด

เรื่องราวของความศรัทธา

เรื่องที่ 1: ละหมาดบนยอดเขา

ชายหนุ่มคนหนึ่งขึ้นไปปีนเขาและค้างแรมอยู่บนยอดเขา ในช่วงเวลาละหมาด เขาได้นำเสื่อละหมาดออกมาจากกระเป๋าเป้และแผ่ลงบนเนินหญ้าตรงจุดที่สูงที่สุดของภูเขา เขาก้มลงละหมาดโดยหันหน้าไปทางทิศกิบลัต

ขณะที่เขากำลังละหมาดอยู่นั้น มีฝูงนกอินทรีบินวนอยู่เหนือหัวของเขา นกอินทรีเหล่านั้นร้องเพลงที่ไพเราะและโบยบินไปรอบๆ ชายหนุ่มราวกับว่ากำลังร่วมละหมาดอยู่ด้วยกัน

ชายหนุ่มรู้สึกประทับใจกับฉากที่อยู่ตรงหน้าเป็นอย่างมาก เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังละหมาดต่อพระพักตร์ของพระผู้เป็นเจ้าท่ามกลางความงามของธรรมชาติ

สิ่งที่เราเรียนรู้: ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหนหรือสถานการณ์เป็นอย่างไร เราสามารถละหมาดและเชื่อมต่อกับพระผู้เป็นเจ้าได้เสมอ

เรื่องที่ 2: ละหมาดในป่าลึก

หญิงสาวคนหนึ่งไปเดินป่าคนเดียวในป่าลึก เธอเดินมาทั้งวันและรู้สึกเหนื่อยล้าอย่างมาก ในที่สุด เธอก็ตัดสินใจหาที่พักพิงใต้กิ่งไม้ของต้นไม้ใหญ่

ขณะที่เธอนั่งพักอยู่นั้น เธอได้ยินเสียงน้ำไหล เธอเดินตามเสียงน้ำไปจนถึงลำธารแห่งหนึ่ง เธอคุกเข่าลงและดื่มน้ำอย่างกระหาย

หลังจากนั้น เธอได้นำเสื่อละหมาดออกมาจากกระเป๋าเป้และแผ่ลงบนพื้นดินริมลำธาร เธอละหมาดโดยหันหน้าไปทางทิศกิบลัตและรู้สึกขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าสำหรับน้ำและที่พักพิง

ขณะที่เธอกำลังละหมาดอยู่นั้น เธอได้ยินเสียงน้ำตกดังมาจากระยะไกล เธอเดินไปตามเสียงน้ำตกและพบว่ามีน้ำตกขนาดเล็กซ่อนตัวอยู่ในป่า

หญิงสาวเดินไปใต้สายน้ำตกและปล่อยให้สายน้ำไหลผ่านตัวเธอ เธอรู้สึกชุ่มชื่นและผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ราวกับว่าพระผู้เป็นเจ้ากำลังชำระล้างบาปของเธอ

สิ่งที่เราเรียนรู้: แม้ในสถานที่ที่ยากลำบากที่สุด เราก็ยังสามารถหาทางเชื่อมต่อกับพระผู้เป็นเจ้าและรู้สึกถึงความสงบสุขได้

เรื่องที่ 3: ละหมาดบนรถไฟ

ชายคนหนึ่งกำลังเดินทางไกลโดยรถไฟ เขาพลาดเวลาละหมาดซุฮฺรีและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร

ขณะที่รถไฟกำลังแล่นไป ชายคนนั้นสังเกตเห็นว่ามีมุมว่างเปล่าอยู่มุมหนึ่งของโบกี้ เขาจึงเดินไปที่มุมนั้น วางเสื่อละหมาดลง และละหมาดซุฮฺรี

หลังจากละหมาดเสร็จ ชายคนนั้นก็ได้ยินเสียงพนักงานรถไฟประกาศว่ารถไฟจะจอดที่สถานีถัดไปในอีก 10 นาที

ชายคนนั้นดีใจมากที่ได้ละหมาดซุฮฺรีทันเวลา เขารู้สึกขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่ทำให้เขาหาที่ละหมาดได้บนรถไฟ

สิ่งที่เราเรียนรู้: ไม่ว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์ใด เราสามารถหาวิธีละหมาดและปฏิบัติศาสนกิจของเราได้เสมอ

ประโยชน์ของการละหมาด

การละหมาดเป็นเสาหลักที่สำคัญที่สุดของศาสนาอิสลาม มีประโยชน์มากมายสำหรับผู้ที่ปฏิบัติละหมาดอย่างสม่ำเสมอ

ประโยชน์ทางจิตใจ

• ลดความเครียดและความวิตกกังวล
• เพิ่มความสงบและความผ่อนคลาย
• ปรับปรุงสมาธิและความจดจ่อ
• เพิ่มความรู้สึกรักตนเองและการยอมรับตนเอง

ประโยชน์ทางร่างกาย

• ลดความดันโลหิต
• ปรับปรุงการไหลเวียนของเลือด
• เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
• บรรเทาอาการปวดหลังและข้อ

ประโยชน์ทางสังคม

• สร้างความสามัคคีและความสามัคคีในชุมชน
• ส่งเสริมการมีระเบียบวินัยและความรับผิดชอบ
• สร้างโอกาสในการพบปะและทำความรู้จักกับพี่น้องชาวมุสลิมคนอื่นๆ

ประโยชน์ทางจิตวิญญาณ

• ชำระล้างบาปและความผิดพลาด
• เพิ่มความใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้า
• รับรองการลงโทษในวันสิ้นโลก
• นำไปสู่สวรรค์ในวันปรโลก

สรุป

ละหมาดเป็นการปฏิบัติทางศาสนา